หมอเตือน: อยู่ห่างไกลจากนกพิราบ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
นกพิราบอาจดูเป็นสัตว์ที่ไร้พิษภัยและพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองใหญ่ แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การอยู่ใกล้ชิดหรือสัมผัสนกพิราบอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณได้? แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า การสัมผัสนกพิราบหรือพื้นที่ที่มีมูลและรังนกพิราบสะสมอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยที่ร้ายแรงในบางกรณี
เหตุใดนกพิราบจึงเป็นภัยต่อสุขภาพ?
- เชื้อโรคและแบคทีเรียในมูลนก
มูลนกพิราบเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เช่น Cryptococcus neoformans และ Histoplasma capsulatum ที่สามารถทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาการที่พบได้ เช่น ไข้ ไอเรื้อรัง และหายใจลำบาก - โรคทางเดินหายใจจากเชื้อรา
เชื้อราที่เจริญเติบโตในมูลนกพิราบสามารถปล่อยสปอร์ที่ฟุ้งกระจายสู่ในอากาศ เมื่อสูดดมเข้าไป อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบจากเชื้อรา (Fungal Pneumonia) และ โรคปอดเรื้อรัง - ปรสิตและไรขน
นกพิราบยังเป็นพาหะของปรสิตและไรขน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการคัน ผื่นแพ้ และการติดเชื้อในผิวหนัง - ไข้จากเชื้อแบคทีเรีย Psittacosis
แม้จะพบได้ยาก แต่เชื้อ Chlamydia psittaci จากนกพิราบสามารถทำให้เกิดโรคไข้นกพิราบ (Psittacosis) ซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย
วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
- หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่นกพิราบชอบอยู่อาศัย
หลีกเลี่ยงการเดินผ่านบริเวณที่มีนกพิราบจำนวนมาก เช่น ใต้สะพาน ราวระเบียง หรือสถานที่ที่มีมูลนกสะสม - ทำความสะอาดพื้นที่อย่างถูกวิธี
หากต้องทำความสะอาดพื้นที่ที่มีมูลนก ควรใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรค - ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันนก
การติดตั้ง เจลแสงไล่นก (Optical Gel) หรืออุปกรณ์อื่นที่ช่วยไล่นกพิราบออกจากพื้นที่เป็นวิธีการป้องกันที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ - ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
หากมีอาการไข้ ไอเรื้อรัง หรือหายใจลำบากหลังจากสัมผัสพื้นที่ที่มีนกพิราบ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษา