โรคที่มาพร้อมกับนกพิราบ
1. โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis)
- เกิดจากเชื้อรา Cryptococcus Neoformans ในมูลนกพิราบ โรคนี้จะส่งผลกระทบต่อปอด ก่อนจะแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด ไปยังอวัยวะอื่นๆ ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ปวดศีรษะแบบเป็นๆ หายๆ มองเห็นไม่ค่อยชัด เป็นไข้ ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหลออกจมูก ในกรณีที่สมองติดเชื้อผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
2. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- เกิดจากการสูดดมละอองของมูลนกพิราบชนิดแห้ง รวมทั้งการสัมผัสมูลของนกพิราบ สามารถติดเชื้อผ่านระบบทางเดินอาหารได้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ตาแพ้แสง หากติดจากเชื้อไวรัส อาการจะไม่รุนแรง สามารถรักษาด้วยการรับประทานยาได้ หากติดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการจะรุนแรง เช่น ชัก หมดสติ เป็นอัมพาต สมองพิการ สามารถเสียชีวิตได้
3. ไข้หวัดนก
- เป็นการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอในสัตว์ปีก ปกติแล้วจะติดต่อกันระหว่างสัตว์เท่านั้น แต่บางสายพันธุ์สามารถแพร่เชื้อมาสู่คนได้ โดยเฉพาะไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะไอ คัดจมูก ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
4. โรคซิตตาโคซิส (Psittacosis) หรือโรคไข้นกแก้ว
- โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia Psittaci ผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่รุนแรงมาก เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ ไอแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ อีกทั้งโรคไข้นกแก้วนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปอดบวม หากผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด สามารถเสียชีวิตได้
5. ปอดอักเสบ
- โรคปอดอักเสบชนิดนี้เกิดจากการสูดดมเอาละอองสปอร์ เชื้อรา Cryptococcus Neoformans เช่นเดียวกับโรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis) ส่งผลให้เกิดอาการติดเชื้อที่ปอด ลุกลามไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนปอดเกิดการอักเสบในที่สุด ผู้ป่วยมักจะมีอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะแบบเป็นๆ หายๆ วิงเวียนศีรษะ ปวดเบ้าตา อาเจียน และไอเป็นเลือด ปอดอักเสบจากการติดเชื้อราประเภทนี้อันตรายมาก หากมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้
6. โรคซาลโมเนลโลสิส (Salmonellosis)
- เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำดื่ม ที่มีสารปนเปื้อนของเชื้อจากแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) โดยมีนกพิราบเป็นพาหะของโรค ผู้ป่วยมักจะมีอาการเป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย และขับถ่ายเป็นเลือด สามารถรักษาตามอาการด้วยตนเองได้
7. โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis)
- เกิดจากการติดเชื้อรา Histoplasma ซึ่งจะอยู่ในดินที่นกพิราบได้ถ่ายมูลทิ้งไว้ หรือสัมผัสโดน น้ำลายนก ผู้ป่วยที่ร่างกายปกติแข็งแรงมักจะไม่แสดงอาการ ซึ่งอาการที่แสดงมักจะเป็นไข้ ไอ และมีอาการล้า แต่ในกรณีผู้ติดเชื้อที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ส่งผลให้การติดเชื้อทวีความรุนแรงมากขึ้นได้