‘หมอ’ เตือนอยู่ห่าง ‘นกพิราบ’

หมอเตือน: อยู่ห่างไกลจากนกพิราบ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

นกพิราบอาจดูเป็นสัตว์ที่ไร้พิษภัยและพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองใหญ่ แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การอยู่ใกล้ชิดหรือสัมผัสนกพิราบอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณได้? แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า การสัมผัสนกพิราบหรือพื้นที่ที่มีมูลและรังนกพิราบสะสมอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยที่ร้ายแรงในบางกรณี

เหตุใดนกพิราบจึงเป็นภัยต่อสุขภาพ?

  1. เชื้อโรคและแบคทีเรียในมูลนก
    มูลนกพิราบเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เช่น Cryptococcus neoformans และ Histoplasma capsulatum ที่สามารถทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาการที่พบได้ เช่น ไข้ ไอเรื้อรัง และหายใจลำบาก
  2. โรคทางเดินหายใจจากเชื้อรา
    เชื้อราที่เจริญเติบโตในมูลนกพิราบสามารถปล่อยสปอร์ที่ฟุ้งกระจายสู่ในอากาศ เมื่อสูดดมเข้าไป อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบจากเชื้อรา (Fungal Pneumonia) และ โรคปอดเรื้อรัง
  3. ปรสิตและไรขน
    นกพิราบยังเป็นพาหะของปรสิตและไรขน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการคัน ผื่นแพ้ และการติดเชื้อในผิวหนัง
  4. ไข้จากเชื้อแบคทีเรีย Psittacosis
    แม้จะพบได้ยาก แต่เชื้อ Chlamydia psittaci จากนกพิราบสามารถทำให้เกิดโรคไข้นกพิราบ (Psittacosis) ซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย

วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง

  1. หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่นกพิราบชอบอยู่อาศัย
    หลีกเลี่ยงการเดินผ่านบริเวณที่มีนกพิราบจำนวนมาก เช่น ใต้สะพาน ราวระเบียง หรือสถานที่ที่มีมูลนกสะสม
  2. ทำความสะอาดพื้นที่อย่างถูกวิธี
    หากต้องทำความสะอาดพื้นที่ที่มีมูลนก ควรใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรค
  3. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันนก
    การติดตั้ง เจลแสงไล่นก (Optical Gel) หรืออุปกรณ์อื่นที่ช่วยไล่นกพิราบออกจากพื้นที่เป็นวิธีการป้องกันที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  4. ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
    หากมีอาการไข้ ไอเรื้อรัง หรือหายใจลำบากหลังจากสัมผัสพื้นที่ที่มีนกพิราบ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *